กลิ่นประจำตัว ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ช่วยสร้างเอกลักษณ์ความเป็นตัวตนของเราได้ ทำให้ผู้คนที่ใกล้ชิด หรือ คนที่พบปะกับเราได้จดจำคาแรคเตอร์เฉพาะตัวของเราได้ โดยผ่านกลิ่นหอมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น กลิ่นจากโลชั่นทาตัว, กลิ่นโรลออน, กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่ม และที่สร้างความโดดเด่น คนนิยมใช้กันมากที่สุดก็คือ กลิ่นน้ำหอม
วันนี้ Cloud Mall จึงอยากแนะนำ 8 เทคนิคฉีดน้ำหอม กลิ่นไม่ฉุน หอมแบบพอดี ให้กลิ่นหอมติดทนนานทั้งวัน เพื่อเป็นทริคเล็กๆ ในการแนะนำวิธีการเลือกน้ำหอม วิธีการฉีดน้ำหอมอย่างไรให้พอดีเหมาะกับตัวเรา ให้กลิ่นไม่ฉุนเกินไป แถมยังหอมติดทนนานทั้งวันอีกด้วย ถ้าพร้อมแล้วตามมาดูกันเลย
วันนี้ Cloud Mall จึงอยากแนะนำ 8 เทคนิคฉีดน้ำหอม กลิ่นไม่ฉุน หอมแบบพอดี ให้กลิ่นหอมติดทนนานทั้งวัน เพื่อเป็นทริคเล็กๆ ในการแนะนำวิธีการเลือกน้ำหอม วิธีการฉีดน้ำหอมอย่างไรให้พอดีเหมาะกับตัวเรา ให้กลิ่นไม่ฉุนเกินไป แถมยังหอมติดทนนานทั้งวันอีกด้วย ถ้าพร้อมแล้วตามมาดูกันเลย
ทำความเข้าใจประเภทของน้ำหอมที่เราใช้ก่อน
ก่อนที่เราจะเริ่มไปดูเทคนิคการฉีดน้ำหอมต่างๆ เราต้องมีความเข้าใจกับประเภทน้ำหอมที่เรามีอยู่เสียก่อน ถึงความเข้มข้นในน้ำหอมประเภทต่างๆ เพื่อให้เราสามารถเลือกปริมาณการฉีดได้อย่างเหมาะสม โดยมีวิธีการดูและทดสอบได้ดังนี้
ดูระดับความเข้มของน้ำหอม โดยน้ำหอมจะแบ่งออกเป็น 5 ระดับด้วยกัน
- Parfum (หรือ Perfume) คือ น้ำหอมที่มีระดับความเข้ม 20-30% กลิ่นติดทนนานประมาณ 6-8 ชั่วโมง เหมาะสำหรับฉีดออกไปทำกิจกรรมข้างนอกตลอดทั้งวัน เช่น ไปออกเดท, ไปออกงานสำคัญที่ต้องมีกิจกรรมตลอดทั้งวัน เป็นต้น
- Eau De Parfum (EDP) คือ น้ำหอมที่มีระดับความเข้ม 15-20% กลิ่นติดทนนานประมาณ 4-5 ชั่วโมง เหมาะสำหรับฉีดออกไปทำกิจกรรมครึ่งวัน เช่น ไปงานแต่ง, เที่ยวปาร์ตี้ หรือ กิจกรรมอื่นๆ ที่ใช้เวลาเพียงครึ่งวันเพื่อให้เราสามารถกลับมาพักผ่อน หรือ กลับมาเติมกลิ่นน้ำหอมเพิ่มได้
- Eau De Toilette (EDT) คือ น้ำหอมที่มีระดับความเข้ม 5-15% กลิ่นติดทนนานประมาณ 3-4 ชั่วโมง เหมาะสำหรับฉีดออกไปทำกิจกรรมสั้นๆ เช่น ไปเดินห้าง, ดินเนอร์ทานข้าวเย็น, ไปดูหนัง, เข้าประชุม ซึ่งพอดีสำหรับกิจกรรมสั้นๆ ระหว่างวันได้ หรือ เหมาะสำหรับพกติดตัวไปฉีดเติมน้ำหอมได้ตามโอกาสเหมาะสม
- Eau De Cologne (EDC) คือ น้ำหอมที่มีระดับความเข้ม 2-4% กลิ่นติดทนนานประมาณ 2-3 ชั่วโมง เดิมทีเป็นสูตรน้ำหอมสำหรับผู้ชาย เพราะเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบน้ำหอมกลิ่นแรง หรือ กลัวกลิ่นน้ำหอมฉุนมากเกินไป แต่ปัจจุบันสูตรนี้นิยมใช้ได้แบบ Unisex ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เพราะจะได้กลิ่นน้ำหอมที่จะมีความหอมแบบจางๆ เรียบร้อย เรียบหรู เพียงพอต่อการใช้กลบกลิ่นกาย กลิ่นเหงื่อ และได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ไม่แรงจนแตะจมูกมากเกินไป
- Eau Faiche (EDF) คือ น้ำหอมที่มีระดับความเข้ม 1-3% กลิ่นติดทนนานประมาณไม่เกิน 2 ชั่วโมง เหมาะสำหรับฉีดออกไปทำกิจกรรมในระยะเวลาสั้นๆ ไม่เกิน 2 ชั่วโมง ถือเป็นอีกประเภทน้ำหอมที่ราคาประหยัดและเหมาะสำหรับซื้อมาทดลองกลิ่นต่างๆ ได้หลากหลาย หรือ ใช้ดับกลิ่นกายชั่วคราว เหมาะสำหรับพกพาฉีดเติมได้ตามโอกาสเหมาะๆ และยังมีกลิ่นไม่ฉุนจนแรงเกินไปอีกด้วย
ทดสอบความแรงของกลิ่นน้ำหอม
บ่อยครั้งที่หลายคนพลาด คือ เมื่อเราเลือกซื้อน้ำหอมมาแล้ว ไม่รู้จักระดับความเข้มข้นของน้ำหอมแต่ละประเภทตามหัวข้อด้านบน ทำให้บางครั้งเราฉีดน้ำหอมจนมีกลิ่นฉุนและแรงมากเกินไป ซึ่งเราสามารถทดสอบความแรงของกลิ่นน้ำหอมของเราได้ง่ายๆ ดังนี้
- ทดลองฉีดน้ำหอมใส่เสื้อผ้าในตู้แล้วออกไปข้างนอกห้องทิ้งไว้ระยะหนึ่ง จากนั้นเราจึงเข้าห้องและเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อเทียบความแรงของกลิ่นและปรับลดการปริมาณการฉีดน้ำหอมได้ตามเหมาะสม
- ทดลองฉีดน้ำหอมแล้วถามคนในครอบครัว หรือ เพื่อนสนิทตรงๆ หรือ สังเกตพฤติกรรมของคนรอบข้าง หากมีเพื่อน หรือ คนในครอบครัวทักว่ากลิ่นฉุนเกินไป ควรปรับลดปริมาณการฉีดน้ำหอมตามความเหมาะสม
8 เทคนิคฉีดน้ำหอม ให้กลิ่นหอมติดทนนานทั้งวัน
2.ใช้โลชั่น หรือ ปิโตรเลียมเจลก่อนฉีดน้ำหอม
สำหรับใครที่มีผิวแห้งหนังมากเกินไปจะทำให้น้ำหอมที่ฉีดระเหยและกลิ่นหมดได้เร็ว สามารถแก้ได้ง่ายๆ โดยการใช้โลชั่นบำรุงผิวกายทาก่อนที่จะฉีดน้ำหอมก็จะช่วยให้ผิวเราชุ่มชื้นกักเก็บกลิ่นน้ำหอมได้ยาวนานขึ้น (ข้อควรระวังคือหลีกเลี่ยงโลชั่นที่มีกลิ่นแรงเกินไปจะทำให้กลบกลิ่นน้ำหอมจนอาจทำให้กลิ่นเพี้ยนได้)
แต่ถ้าหากใครไม่นิยมทาโลชั่น สามารถใช้ปิโตรเลียมเจล หรือ วาสลีนทาในเฉพาะจุดที่เราจะฉีดน้ำหอมเพื่อให้ผิวเราชุ่มชื้น ก็จะช่วยทำให้กลิ่นน้ำหอมติดกับผิวเราได้ทนนานยิ่งขึ้น
แต่ถ้าหากใครไม่นิยมทาโลชั่น สามารถใช้ปิโตรเลียมเจล หรือ วาสลีนทาในเฉพาะจุดที่เราจะฉีดน้ำหอมเพื่อให้ผิวเราชุ่มชื้น ก็จะช่วยทำให้กลิ่นน้ำหอมติดกับผิวเราได้ทนนานยิ่งขึ้น
3.หลังจากฉีดน้ำหอมแล้วไม่ควรถูผิว
อีกหนึ่งเรื่องที่เป็นข้อผิดพลาดที่เรามักพบเจอบ่อยๆ คือ หลังจากฉีดน้ำหอมตามจุดต่างๆ แล้วมักมีหลายคนใช้มือลูบน้ำหอมให้กระจายไปทั่วๆ เพราะคิดว่าจะช่วยให้น้ำหอมกระจายกลิ่นได้ดี แต่ความเป็นจริงคือจะยิ่งทำให้น้ำหอมระเหยได้เร็วและหมดกลิ่นได้เร็วขึ้นต่างหาก ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่แนะนำ
หากคุณต้องการจะทำให้น้ำหอมกระจายไปทั่วบริเวณผิว คุณควรเว้นระยะห่างตอนฉีดน้ำหอมประมาณ 6 นิ้ว หรือ ประมาณ 15 ซม. ก็จะช่วยให้น้ำหอมกระจายเป็นวงกว้างได้อย่างเหมาะสมและก็ปล่อยให้น้ำหอมซึมลงผิว หรือ เสื้อผ้าอย่างเป็นธรรมชาติ ก็จะช่วยให้กลิ่นน้ำหอมมีความเข้มข้นติดทนนานมากกว่าเอามือลูบไปทั่วๆ แล้วน้ำหอมระเหยไปจนหมด
หากคุณต้องการจะทำให้น้ำหอมกระจายไปทั่วบริเวณผิว คุณควรเว้นระยะห่างตอนฉีดน้ำหอมประมาณ 6 นิ้ว หรือ ประมาณ 15 ซม. ก็จะช่วยให้น้ำหอมกระจายเป็นวงกว้างได้อย่างเหมาะสมและก็ปล่อยให้น้ำหอมซึมลงผิว หรือ เสื้อผ้าอย่างเป็นธรรมชาติ ก็จะช่วยให้กลิ่นน้ำหอมมีความเข้มข้นติดทนนานมากกว่าเอามือลูบไปทั่วๆ แล้วน้ำหอมระเหยไปจนหมด
4.ฉีดน้ำหอมใส่กระดาษทิชชู่ แล้วเอามาเก็บในตู้เสื้อผ้า
อีกหนึ่งวิธีที่ชาวต่างชาตินิยมกันมากๆ สามารถป้องกันน้ำหอมบางยี่ห้อทิ้งคราบกับเสื้อผ้าของคุณได้ โดยใช้วิธีการฉีดน้ำหอมใส่กระดาษต่างๆ หรือ ฉีดกับกระดาษทิชชู่ หรือ จะเป็นการนำกระดาษทิชชู่นั้นมาซับละอองน้ำหอมตามโต๊ะ ตามฝาที่น้ำหอมหยดอยู่ แล้วนำกระดาษส่วนนั้นมาเก็บรองเอาไว้ด้านล่างในตู้เสื้อผ้าทิ้งไว้ระยะเวลานานๆ เสื้อผ้าของคุณก็จะค่อยๆ ดูดซับกลิ่นน้ำหอมที่ระเหยขึ้นไปเข้าเนื้อผ้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยให้เสื้อผ้ามีกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ได้โดยไม่ต้องฉีดน้ำหอม
5.ฉีดน้ำหอมในระยะห่างเฉียง 45 องศา
วิธีนี้จะเหมาะสำหรับน้ำหอมที่มีกลิ่นเข้มข้นและต้องการพรมน้ำหอมให้โดนทั่วทั้งตัว โดยวิธีการคือให้ฉีดน้ำหอมขึ้นไปข้างหน้าด้านบนโดยเฉียงประมาณ 45 องศา ในช่วงที่น้ำหอมกำลังฟุ้งกระจายและค่อยๆ ตกลงมา ให้คุณนำตัวเองเดินผ่านน้ำหอมนั้น ก็จะเป็นอีกวิธีการพรมละอองน้ำหอมให้ติดทั่วทั้งตัวได้ ช่วยประหยัดเวลาและไม่ทำให้น้ำหอมมีกลิ่นฉุนมากเกินไป
6.เทคนิคฉีดน้ำหอมแล้วโบกเสื้อผ้า
ถัดจากเทคนิคในข้อที่ 5 คือฉีดน้ำหอมห่างๆ เฉียง 45 องศาแล้วเดินผ่าน เราจะใช้เทคนิคคล้ายกันแต่ใช้กับเสื้อผ้าที่จะใส่แทน โดยเราเตรียมเสื้อที่จะใส่แล้วฉีดน้ำหอมให้ฟุ้งขึ้นไปด้านบน จากนั้นจับเสื้อผ้าโบกไปมาเพื่อซับละอองน้ำหอมให้ทั่วเนื้อผ้า วิธีนี้จะช่วยป้องกันคราบที่เกิดจากน้ำหอมบางยี่ห้อ ทำให้น้ำหอมโดนทั่วทั้งชุดและกลิ่นน้ำหอมไม่ฉุนเฉพาะจุดมากเกินไป นอกจากนี้เนื้อผ้ายังสามารถซับกลิ่นน้ำหอมให้ติดได้ทนนานกว่าผิวหนังอีกด้วย
7.ฉีดน้ำหอมลงเส้นผม
อีกหนึ่งวิธีที่แนะนำ เพราะเส้นผมนั้นถือเป็นจุดซับกลิ่นน้ำหอมได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีผมยาว การฉีดน้ำหอมที่เส้นผมนั้นเมื่อเวลาเราเดินผ่าน หันไปทิศทางไหน หรือ สะบัดผม จะทำให้กลิ่นน้ำหอมกระจายตัวได้ดีมาก
และอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ในการพรมน้ำหอมที่เส้นผม คือ การฉีดน้ำหอมลงบนหวีแล้วหวีผมไปเรื่อยๆ เท่านี้ก็สามารถพรมน้ำหอมที่เส้นผมได้ทั่วศีรษะแล้ว (ข้อควรระวังสำหรับน้ำหอมบางประเภทที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์มากเกินไป ในบางคนอาจมีอาการแพ้ได้ ต้องหมั่นสังเกตด้วยตนเอง)
และอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ในการพรมน้ำหอมที่เส้นผม คือ การฉีดน้ำหอมลงบนหวีแล้วหวีผมไปเรื่อยๆ เท่านี้ก็สามารถพรมน้ำหอมที่เส้นผมได้ทั่วศีรษะแล้ว (ข้อควรระวังสำหรับน้ำหอมบางประเภทที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์มากเกินไป ในบางคนอาจมีอาการแพ้ได้ ต้องหมั่นสังเกตด้วยตนเอง)
8.ฉีดน้ำหอมตามจุดอุ่น หรือ จุดชีพจรของร่างกาย
จุดชีพจรของคนเรานั้น คือ จุดที่ผิวหนังและเส้นเลือดอยู่ชิดกันมากที่สุด ทำให้จุดบริเวณนั้นมีการเต้นของชีพจรและมีความอุ่นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งน้ำหอมส่วนใหญ่มักมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เป็นตัวทำละลายอยู่ในปริมาณมาก เมื่อแอลกอฮอล์อยู่ในจุดที่มีอุณหภูมิสูงๆ ก็จะยิ่งกระจายตัวและระเหยได้ดี ทำให้กลิ่นน้ำหอมที่เราฉีดตามจุดชีพจรนั้นสามารถกระจายกลิ่นหอมได้ดีนั่นเอง
โดยจุดชีพจรที่เหมาะในการฉีดน้ำหอม ได้แก่ หลังหู, บริเวณรอบคอและหลังคอ (หลังคอสำคัญมากเฉพาะจะเป็นจุดทิ้งกลิ่นสำหรับคนที่เดินตามได้ดี), ช่วงไหล่, หน้าอก, ข้อพับแขน, ข้อมือ (บริเวณโคนนิ้วโป้ง), ข้อพับเข่า เป็นต้น โดยการฉีดน้ำหอมตามจุดต่างๆ นี้ ไม่จำเป็นต้องฉีดทุกจุด แต่ให้ดูถึงการแต่งตัวในแต่ละวันและเสื้อผ้าที่ใส่ รวมถึงดูความเข้มของน้ำหอมแต่ละประเภทที่คุณเลือกใช้อย่างเหมาะสมและพอดีด้วย
โดยจุดชีพจรที่เหมาะในการฉีดน้ำหอม ได้แก่ หลังหู, บริเวณรอบคอและหลังคอ (หลังคอสำคัญมากเฉพาะจะเป็นจุดทิ้งกลิ่นสำหรับคนที่เดินตามได้ดี), ช่วงไหล่, หน้าอก, ข้อพับแขน, ข้อมือ (บริเวณโคนนิ้วโป้ง), ข้อพับเข่า เป็นต้น โดยการฉีดน้ำหอมตามจุดต่างๆ นี้ ไม่จำเป็นต้องฉีดทุกจุด แต่ให้ดูถึงการแต่งตัวในแต่ละวันและเสื้อผ้าที่ใส่ รวมถึงดูความเข้มของน้ำหอมแต่ละประเภทที่คุณเลือกใช้อย่างเหมาะสมและพอดีด้วย
แนะนำ น้ำหอมคุณภาพจากร้านค้าและแบรนด์ชั้นนำ
เป็นยังไงกันบ้างกับบทความ 8 เทคนิคฉีดน้ำหอม กลิ่นไม่ฉุน หอมแบบพอดี ให้กลิ่นหอมติดทนนานทั้งวัน ที่ Cloud Mall นำมาฝากทุกท่านในวันนี้ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณรู้จักประเภทของน้ำหอมต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงเทคนิคการฉีดน้ำหอมด้วยวิธีต่างๆ เพื่อให้น้ำหอมของคุณมีกลิ่นที่หอมติดทนนานอย่างพอดี กลิ่นไม่ฉุนและลงตัว พร้อมพกความมั่นใจทุกครั้งที่ออกจากบ้านกันนะ และถ้าหากว่าคุณมีอะไรดี ๆ มาบอกต่อ หรือถ้าหากมีข้อติชม สามารถมาแนะนำ มาแชร์เพิ่มเติมกันได้ที่ facebook fanpage ได้เลยนะ
ค้นหาใน Cloud Mall